ใช้ CDP และกลยุทธ์ Personalized Omnichannel Journey เพื่อเพิ่ม Conversion Rate และสร้าง Engagement ด้วย Connected Experience (ConnectX)

Use CDPs and personalized omnichannel journey strategies to increase conversion rates and engagement.

ตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วย Connected Experience (ConnectX): ใช้ Customer Data Platform (CDP) และกลยุทธ์ Personalized Omnichannel Journey เพื่อเพิ่ม Conversion Rate และสร้าง Engagement 

ในยุคที่การเชื่อมต่อและประสบการณ์ของลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจหลายๆ องค์กร การใช้เทคโนโลยี Connected Experience (ConnectX) ได้กลายเป็นตัวช่วยที่สามารถปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการใช้ ConnectX สามารถสร้างประสบการณ์ที่ราบรื่นและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ โดยการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกจุดสัมผัสของลูกค้าเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งทำให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถสร้างความพึงพอใจและความภักดีจากลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

การสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องในทุกช่องทาง: กรณีศึกษาจากธุรกิจค้าปลีก

ในยุคดิจิทัลที่ลูกค้าคาดหวังความสะดวกสบายและความสม่ำเสมอในประสบการณ์การช้อปปิ้งทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ธุรกิจค้าปลีกที่ประสบความสำเร็จได้ใช้เทคโนโลยี Connected Experience (ConnectX) ในการสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในทุกช่องทาง โดย ConnectX ทำให้ธุรกิจสามารถเชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าจากหลายช่องทางได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือร้านค้าจริง

การเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้าจากทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในอุตสาหกรรมค้าปลีกคือการใช้ ConnectX ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้าง Single Customer View (SCV) ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การช้อปปิ้งผ่านทางเว็บไซต์ การติดตามโซเชียลมีเดีย หรือการเยี่ยมชมร้านค้าจริง ข้อมูลเหล่านี้ถูกรวบรวมและเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สอดคล้อง

การสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นและตอบโจทย์ผู้บริโภค

หนึ่งในกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จคือธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ใช้ ConnectX เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลจากทุกช่องทางของลูกค้า ทั้งข้อมูลจากการสั่งซื้อออนไลน์ การเยี่ยมชมสาขา หรือการคลิกเข้าดูสินค้าบนโซเชียลมีเดีย ธุรกิจนี้ได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสินค้าออนไลน์ เช็คราคาที่สาขาใกล้บ้าน และทำการจองล่วงหน้า ลูกค้าสามารถเลือกรับสินค้าที่สาขาหรือส่งสินค้าถึงบ้าน โดยทุกข้อมูลการโต้ตอบของลูกค้าจะถูกเก็บและใช้เพื่อปรับแต่งการสื่อสารและข้อเสนอที่เหมาะสมในครั้งต่อไป

ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ ConnectX ในธุรกิจค้าปลีก

หลังจากนำ ConnectX มาใช้ ธุรกิจค้าปลีกนี้สามารถเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถลดเวลาในการค้นหาสินค้าและการชำระเงินได้ถึง 20% ลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้นเนื่องจากได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและไม่สะดุดในทุกช่องทาง ทั้งนี้การใช้ ConnectX ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพิ่มยอดขายได้ถึง 15% ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน

การปรับแต่งประสบการณ์ส่วนบุคคลด้วย ConnectX: กรณีศึกษาจากธุรกิจ E-commerce

การสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลถือเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดและรักษาลูกค้าในธุรกิจ E-commerce ด้วยการใช้ ConnectX ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละคนแบบเรียลไทม์ การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งขึ้น ทำให้สามารถปรับแต่งการสื่อสารและข้อเสนอที่ตรงกับบุคคลนั้น ๆ ได้อย่างแม่นยำ

การใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล

ตัวอย่างจากธุรกิจ E-commerce ขนาดใหญ่ที่ใช้ ConnectX ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการค้นหา การซื้อ และการคลิกดูสินค้าของลูกค้า ธุรกิจนี้สามารถสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคลให้กับลูกค้าผ่านการปรับแต่งหน้าเว็บไซต์และแอปพลิเคชันตามพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน เช่น การนำเสนอสินค้าที่คล้ายกับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อหรือสนใจ รวมถึงการแสดงโปรโมชั่นที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าคนนั้นโดยใช้ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมได้

ตัวอย่างการนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตามความต้องการของลูกค้า

ConnectX ได้ช่วยธุรกิจ E-commerce นำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงกับความสนใจของลูกค้าแบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่เคยซื้อเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งจะได้รับข้อเสนอพิเศษเกี่ยวกับแบรนด์นั้นในการเข้าชมเว็บไซต์ครั้งถัดไป หรือหากลูกค้าทิ้งตะกร้าสินค้าไว้ ระบบ ConnectX จะส่งอีเมลแจ้งเตือนพร้อมส่วนลดพิเศษเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าที่เลือกไว้ ข้อเสนอเหล่านี้ถูกปรับแต่งตามพฤติกรรมและข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าแต่ละราย ทำให้การสื่อสารและการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลสำเร็จที่เกิดจากการใช้ AI และ Machine Learning ใน ConnectX

ธุรกิจ E-commerce ที่ได้นำ AI และ Machine Learning ใน ConnectX มาใช้ประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าอย่างมาก ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากในเวลารวดเร็ว และ Machine Learning ช่วยให้ระบบเรียนรู้พฤติกรรมลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแนะนำสินค้าและข้อเสนอถูกปรับปรุงอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้ธุรกิจเพิ่มยอดขายได้ถึง 25% ภายในหนึ่งปี และอัตราการมีส่วนร่วมของลูกค้าก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยลดอัตราการยกเลิกการซื้อ (Cart Abandonment) ลงถึง 18%

เพิ่มความภักดีของลูกค้าด้วย ConnectX: กรณีศึกษาจากอุตสาหกรรมบริการ

ในอุตสาหกรรมบริการ ความภักดีของลูกค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในระยะยาว ธุรกิจที่สามารถสร้างความผูกพันที่ยั่งยืนกับลูกค้าได้ย่อมมีโอกาสที่จะเพิ่มอัตราการกลับมาใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้เทคโนโลยี ConnectX ธุรกิจบริการสามารถรวบรวมข้อมูลจากทุกจุดสัมผัสของลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์

การใช้ข้อมูลจากทุกจุดสัมผัสเพื่อสร้างความผูกพันกับลูกค้า

ในอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจที่นำ ConnectX มาใช้สามารถเก็บข้อมูลจากการจองห้องพัก การใช้บริการในโรงแรม เช่น ร้านอาหาร สปา หรือกิจกรรมภายในโรงแรม และการรีวิวหลังเข้าพัก ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ตัวอย่างเช่น เมื่อมีลูกค้ากลับมาพักซ้ำ ระบบ ConnectX จะเสนอการต้อนรับที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น อัปเกรดห้องพัก หรือบริการพิเศษตามความชอบส่วนตัวของลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียด

การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและเพิ่มคุณค่าในบริการ

ธุรกิจบริการที่ใช้ ConnectX ยังสามารถสร้างความแตกต่างผ่านการนำเสนอประสบการณ์ที่ตอบโจทย์แต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น บริษัทสายการบินที่ใช้ ConnectX เพื่อปรับแต่งประสบการณ์การเดินทางให้เหมาะสมกับผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางกับสายการบินเป็นเวลานาน สามารถเสนอบริการที่แตกต่าง เช่น การเลือกที่นั่งพิเศษ บริการอาหารตามความชอบส่วนตัว หรือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมในระหว่างการเดินทาง ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีคุณค่าและยินดีที่จะกลับมาใช้บริการต่อไป

การวัดความสำเร็จจากการเพิ่มอัตราการกลับมาใช้บริการของลูกค้า

ธุรกิจโรงแรมที่นำ ConnectX มาใช้ประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราการกลับมาพักซ้ำถึง 30% ภายในหนึ่งปี โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกจากการเข้าพักครั้งก่อนของลูกค้าในการปรับแต่งประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล นอกจากนี้ การใช้ ConnectX ยังช่วยลดเวลาในการให้บริการลูกค้า ส่งผลให้อัตราความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 20% ธุรกิจสามารถวัดความสำเร็จผ่านการเพิ่มความถี่ในการกลับมาใช้บริการ ความยาวของการเข้าพัก และการให้คะแนนรีวิวที่สูงขึ้น

การนำ ConnectX มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน: กรณีศึกษาจากธุรกิจโลจิสติกส์

ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ความเร็วและความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้าและความสำเร็จของธุรกิจ การนำเทคโนโลยี Connected Experience (ConnectX) มาใช้ในการจัดการกระบวนการทำงานภายในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างมหาศาล โดยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากทุกจุดของห่วงโซ่อุปทาน ทั้งจากคลังสินค้า การจัดส่ง และระบบขนส่ง รวมถึงข้อมูลของลูกค้าในแต่ละขั้นตอน ConnectX ทำให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันเวลา

การจัดการข้อมูลในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน

ตัวอย่างจากธุรกิจโลจิสติกส์ชั้นนำที่ได้นำ ConnectX มาใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลจากคลังสินค้า การขนส่ง และระบบการจัดการคำสั่งซื้อเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถติดตามสินค้าได้แบบเรียลไทม์ตั้งแต่การจัดเก็บสินค้าไปจนถึงการจัดส่งถึงมือลูกค้า ข้อมูลที่ได้จากทุกขั้นตอนนี้ถูกเก็บรวบรวมในระบบกลาง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถมองเห็นภาพรวมของห่วงโซ่อุปทานได้อย่างชัดเจน รวมถึงสามารถตรวจสอบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนและแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

ผลลัพธ์จากการใช้ ConnectX ในการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า

หลังจากที่ธุรกิจโลจิสติกส์ได้นำ ConnectX มาใช้ ธุรกิจสามารถปรับปรุงความแม่นยำในการจัดส่งได้ถึง 30% และลดเวลาการจัดการสินค้าลงถึง 20% สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับสินค้าที่ตรงตามเวลาและมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ความโปร่งใสในกระบวนการทำงานที่ ConnectX นำเสนอ ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าได้ด้วยตนเองแบบเรียลไทม์ การใช้ ConnectX ยังช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้ในระยะยาว

การใช้ ConnectX ในการปรับปรุง Customer Journey: กรณีศึกษาจากธุรกิจการเงิน

ในธุรกิจการเงิน การสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่มีความสม่ำเสมอและราบรื่นในทุกช่องทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความภักดีและการมีส่วนร่วมของลูกค้า เทคโนโลยี ConnectX ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจการเงินในการเชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าจากหลายแพลตฟอร์มเพื่อให้สามารถติดตามทุกการเดินทางของลูกค้าได้อย่างละเอียด ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในแต่ละจุดสัมผัสได้อย่างแม่นยำและทันต่อสถานการณ์

การเชื่อมโยงข้อมูลลูกค้าจากหลายแพลตฟอร์มเพื่อติดตามทุกการเดินทางของลูกค้า

ธุรกิจการเงินที่ประสบความสำเร็จในการใช้ ConnectX สามารถรวมข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่ง เช่น แอปพลิเคชันมือถือ เว็บไซต์ ระบบธนาคาร และโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างมุมมองแบบครบวงจรของการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแอปมือถือหรือเว็บไซต์สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลการทำธุรกรรมที่สาขาแบบออฟไลน์ได้ ข้อมูลที่เชื่อมต่อกันนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและวิเคราะห์ความต้องการได้แม่นยำยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในแต่ละจุดสัมผัส

ด้วยการใช้ ConnectX ธุรกิจการเงินสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากแต่ละจุดสัมผัสของลูกค้า ตั้งแต่การเข้ามาดูข้อมูลผลิตภัณฑ์บนเว็บไซต์ การสมัครสินเชื่อผ่านแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการขอความช่วยเหลือผ่านคอลเซ็นเตอร์ ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการติดตาม Customer Journey เหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าได้ตามความต้องการที่แท้จริง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าสนใจสมัครบัตรเครดิต ธุรกิจสามารถนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องและข้อเสนอพิเศษผ่านช่องทางที่ลูกค้าสะดวก พร้อมทั้งส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปยังแอปหรืออีเมลของลูกค้าเพื่อสร้างประสบการณ์ที่สอดคล้องและต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าและการเพิ่มยอดขาย

หลังจากที่ธุรกิจการเงินได้นำ ConnectX มาใช้ในการปรับปรุง Customer Journey พบว่ามีการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าขึ้นอย่างมาก อัตราการสมัครบริการใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นถึง 30% และยอดขายจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น 20% นอกจากนี้ ลูกค้ายังให้คะแนนความพึงพอใจในการบริการสูงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการของธุรกิจซ้ำมากขึ้น

แล้วคุณจะรออะไรกันอยู่ล่ะ? ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของคุณให้ก้าวไกลด้วยการใช้ SABLE—เครื่องมือที่จะช่วยให้การทำการตลาดของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแคมเปญ, การจัดการลูกค้า, หรือการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ทุกอย่างรวมอยู่ใน SABLE  CDP ที่จะทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

 

เรามั่นใจว่าเครื่องมือของเราจะเป็นหุ้นส่วนที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต อย่าช้า! สมัครใช้งาน SABLE วันนี้ พร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษที่เราจัดเตรียมไว้ให้กับลูกค้าใหม่ 

🔗คลิกที่ลิงค์ด้านล่างนี้ 

💡 Request a Demo 💡

เพื่อเริ่มต้นการทำการตลาดระดับโปรกับเราและพบกับการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้ธุรกิจของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!