คุณรู้หรือไม่ว่า วันและเวลามีผลต่อธุรกิจอย่างไร 

คุณลองนึกภาพว่าแต่ละวัน คุณเข้าโซเชียลมีเดียเวลาไหนบ้าง? หรือแม้กระทั่งการสั่งซื้อของต่างๆ คุณซื้อเวลาไหน?

คุณน่าจะเริ่มเห็นภาพละว่าวันและเวลามีความสำคัญอย่างไร 

วันและเวลานั้นช่วยบอกพฤติกรรมการเข้าถึงของผู้เข้าชมหรือลูกค้าของคุณว่าโดยส่วนใหญ่แล้วเข้ามาซื้อเวลาไหนช่วงไหน เช่น 

เมื่อคุณสั่งอาหารผ่านแอปต่างๆ คุณก็จะสั่งในช่วงก่อนเวลารับประทานอาหารหรือช่วงเวลารับประทานอาหาร อย่างปกติคุณกินข้าวตอน 12.30 คุณก็จะสั่งประมาณ 11.30 – 12.00 เพื่อให้อาหารของคุณมาถึงเวลารับประทานอาหารของคุณพอดี

เมื่อเห็นภาพแล้วคุณจะเริ่มรู้และเข้าใจแล้วว่าวันและเวลาเป็นส่วนสำคัญต่อธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณแม้กระทั่งการโพสต์คอนเทนต์ของคุณ วันและเวลาก็เป็นจุดเปลี่ยนในการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นการที่รู้วันและเวลาจะเห็นถึงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่คุณอยากจะเข้าถึง ดังนั้นการลงแคมเปญ โฆษณา คอนเทนต์ หรือ โปรโมชั่น วันและเวลาจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างมากเพื่อให้เข้าถึงลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายอย่าง “ถูกเวลา” ต่อไปจะพาทุกคนมารู้จักเครื่องมือที่ช่วยให้เห็นภาพของวันและเวลามากขึ้น

ทำความรู้จัก Heatmap Visualization

Heatmap คืออะไร

Heatmap เป็นกระบวนการในการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งการใช้ Heatmap มาช่วยให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึกรวมถึงพฤติกรรมของผู้เข้าชม/ลูกค้า ในการ interact หรือ take action กับเว็บไซต์ของคุณ การวิเคราะห์ที่ได้จาก Heatmap จะมาเป็นส่วนช่วยในการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งเวลาในการเข้าถึงของผู้เข้าชม/ลูกค้า บนเว็บไซต์ของคุณ

โดยเราจะมาเน้นในเรื่องของ Heatmap ช่วงวันและเวลาในการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณกัน

การดู Heatmap 

จากHeatmap ดังรูปจะอิงข้อมูลจากความถี่ของจำนวนอีเวนต์ที่ผู้เข้าชม/ลูกค้า interact เช่น การคลิกไปยังหน้าเพจอื่น การคัดลอกข้อความบนเว็บไซต์ การลงทะเบียน การยอมรับPDPA มาควบคู่กับวันและเวลา จะเห็นว่าความถี่น้อยไปมากจากสีอ่อนไปยังสีเข้ม ช่องไหนที่สีเข้มสุดแสดงว่ามีความถี่ของจำนวนอีเวนต์เป็นจำนวนมาก

ในภาพจะเห็นได้ว่าช่วง วันอาทิตย์ 22.00, วันจันทร์ 10.00 11.00 15.00 16.00 และ 17.00 มีคนเข้าถึงและinteract กับเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปประยุกต์ทำโปรโมชั่นหรือแคมเปญให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่ผู้เข้าชม/ลูกค้าเข้าถึงมากที่สุด

Cross data

ในการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ควบคู่กันนั้น โดยตัวอย่างข้างต้นจะนำความถี่ของจำนวนอีเวนต์มาควบคู่กับวันเวลา เพื่อให้เห็นว่าผู้เข้าชม/ลูกค้า มาดูเว็บไซต์ช่วงไหนเป็นจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งการนำข้อมูลช่วงวันเวลามาวิเคราะห์กับอุปกรณ์ที่เข้าใช้ ซึ่งนอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลอื่นๆมาควบคู่กันได้ เช่น การเข้าถึงมาจาก Channel ไหน (Channel คืออะไรมาดูกัน) เป็นต้น

รู้แล้วเอาไปทำไรต่อได้บ้าง

Sable ให้ความสำคัญกับช่วงวันแล้วเวลาอย่างไร

Sable นั้นให้ความสำคัญกับช่วงวันและเวลาด้วยการนำข้อมูลความถี่ของจำนวนอีเวนต์กับวันเวลามาควบคู่กัน เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้นว่าผู้เข้าชมหรือลูกค้าของคุณเข้ามาช่วงวันเวลาไหน จะได้จัดทำ Ads ให้ “ถูกวันและเวลา” นอกจากนี้ยังนำข้อมูลการใช้อุปกรณ์และวันเวลา ซึ่งเป็นอีกชุดของข้อมูลที่ช่วยในการตอบโจทย์การยิง Ads ดังรูปภาพ

โดยการนำมา Visualize สำหรับช่วงเวลาและอุปกรณ์จะนำ Stack Bar Graph มาใช้ระบุ ซึ่งจากรูปจะเห็นได้ว่าช่วงเวลา 12.00 – 16.00 มีผู้เข้าใช้จำนวนมาก ดังนั้นเวลาที่ควรทำ content ก็ควรจะลงในเวลาดังกล่าว ซึ่งจะทำให้เกิดจำนวนผู้เข้าชมที่มากขึ้นและมีโอกาสที่ผู้เข้าชมเหล่านี้จะมาเป็น “ลูกค้า” ในที่สุด เช่น เดียวกับ Heatmap Visualization

จะเห็นได้ว่าวันจันทร์นั้นมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาที่เป็นสีเข้ม การนำข้อมูลเหล่านี้มาประยุกต์ใช้เพื่อทำโฆษณาหรือแคมเปญนั้นจะตอบโจทย์และตรง Target ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ดังนั้นวันและเวลานั้นเป็นสิ่งสำคัญต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก 

สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ SABLE คลิกลิงก์นี้เลย ติดต่อทีมงานเพื่อเริ่มใช้งาน