การออกแบบการตลาด ที่มีความเกี่ยวข้องและส่วนบุคคลด้วย Salesforce
Salesforce Marketing Cloud กับ การออกแบบการตลาด ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่มีความเกี่ยวข้องและเป็นส่วนตัวกับลูกค้าได้โดยการใช้ข้อมูลที่ครอบคลุมในทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Customer Touchpoints) เพื่อส่งข้อความที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งมีขั้นตอนสำคัญดังนี้:
การออกแบบการตลาด ที่มีความเกี่ยวข้องและส่วนบุคคลด้วย Salesforce
การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า (Customer Data Collection & Analysis)
หัวใจสำคัญของการตลาดส่วนบุคคลคือการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง Salesforce มีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย อีเมล เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์พกพา ข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมและจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างภาพรวมของลูกค้าแต่ละรายที่ครอบคลุมและมีความละเอียด
ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ นักการตลาดจะสามารถเข้าใจพฤติกรรม ความสนใจ และความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญในการออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตรงใจและมีความหมายสำหรับลูกค้าแต่ละราย
ตัวอย่างเช่น หาก Salesforce ตรวจพบว่าลูกค้ามีความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการบางประเภทเป็นพิเศษ นักการตลาดสามารถส่งข้อเสนอพิเศษหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องไปยังลูกค้ารายนั้นได้โดยตรง หรือหาก Salesforce สามารถระบุรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของลูกค้าได้ ก็สามารถปรับแต่งประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้
การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าด้วย Salesforce ช่วยให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายและส่งมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัว ซึ่งจะนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้าในระยะยาว
การออกแบบการตลาดที่มีความเกี่ยวข้องและส่วนบุคคลด้วย Salesforce
การสร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบครบวงจร (Comprehensive Customer Profiles): หัวใจสำคัญของการตลาดส่วนบุคคลคือการรู้จักลูกค้าอย่างลึกซึ้ง Salesforce ช่วยคุณทำสิ่งนี้ได้ด้วยเครื่องมือ Customer Data Platform (CDP) ที่รวบรวมข้อมูลจากทุกจุดสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล หรือแม้แต่ระบบ CRM ภายในองค์กรเอง ข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้าง มุมมองลูกค้าแบบ 360 องศา ที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน ประวัติการซื้อ ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้งาน
- เข้าใจลูกค้าในแต่ละเฟสของ Customer Journey: ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ในขั้นตอนใดของการเดินทาง ตั้งแต่การรับรู้แบรนด์ การพิจารณาซื้อ ไปจนถึงการเป็นลูกค้าประจำ คุณสามารถเข้าใจความต้องการและความคาดหวังได้อย่างชัดเจน
- ปรับแต่งการตลาดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล: ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากโปรไฟล์ลูกค้า คุณสามารถส่งข้อความที่ตรงใจ สินค้าที่ตรงความต้องการ และประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ
ตัวอย่าง:
- อีเมลส่วนบุคคล: แทนที่จะส่งอีเมลแบบเดียวกันให้กับลูกค้าทุกคน คุณสามารถใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ลูกค้าเพื่อปรับแต่งเนื้อหาและข้อเสนอในอีเมลให้ตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคล
- คำแนะนำสินค้าที่ตรงใจ: เมื่อลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ คุณสามารถใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ลูกค้าเพื่อแนะนำสินค้าที่สนใจ หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับประวัติการซื้อ
- การตลาดตามช่วงเวลาที่เหมาะสม: คุณสามารถใช้ข้อมูลจากโปรไฟล์ลูกค้าเพื่อส่งข้อความหรือข้อเสนอในเวลาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เช่น ส่งอีเมลส่วนลดในวันเกิดของลูกค้า
การปรับแต่งเนื้อหาและข้อเสนอเฉพาะบุคคลด้วย Salesforce
Salesforce เป็นเครื่องมือทรงพลังที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและมีความหมายกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแท้จริง การปรับแต่งเนื้อหาและข้อเสนอเฉพาะบุคคล (Personalized Content & Offers) เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนกับลูกค้าได้
- เข้าใจความต้องการและความสนใจของลูกค้าแต่ละราย: Salesforce รวบรวมข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายช่องทาง ทำให้นักการตลาดสามารถเข้าใจความต้องการ ความสนใจ และพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างลึกซึ้ง
- ส่งมอบเนื้อหาที่ตรงใจ: ด้วยข้อมูลเชิงลึกจาก Salesforce นักการตลาดสามารถสร้างและส่งมอบเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจและความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นบทความ อีเมล หรือโฆษณา
- นำเสนอข้อเสนอที่น่าสนใจ: Salesforce ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างและนำเสนอข้อเสนอพิเศษที่ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ
- สร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจ: การปรับแต่งเนื้อหาและข้อเสนอเฉพาะบุคคลช่วยสร้างประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวและน่าประทับใจให้กับลูกค้า ซึ่งนำไปสู่ความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว
ตัวอย่าง:
- ร้านค้าปลีก: สามารถส่งอีเมลแนะนำสินค้าที่ลูกค้าสนใจ หรือเสนอส่วนลดพิเศษสำหรับสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ
- บริษัทประกันภัย: สามารถส่งข้อเสนอประกันภัยที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละราย
- โรงแรม: สามารถส่งอีเมลต้อนรับพร้อมข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่เคยเข้าพัก หรือแนะนำกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่
การออกแบบการตลาดที่มีความเกี่ยวข้องและส่วนบุคคลด้วย Salesforce
การทำงานแบบ Omnichannel (Omnichannel Marketing): Salesforce ช่วยให้นักการตลาดสามารถสื่อสารกับลูกค้าในช่องทางที่หลากหลาย เช่น อีเมล, SMS, โซเชียลมีเดีย และเว็บไซต์ โดยแต่ละช่องทางจะถูกเชื่อมโยงและผสานกันเพื่อให้เกิดประสบการณ์ที่สอดคล้องและราบรื่น ไม่ว่าลูกค้าจะเริ่มต้นการมีปฏิสัมพันธ์ในช่องทางใด ก็จะได้รับการบริการและข้อเสนอที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกันในทุกช่องทาง
ตัวอย่าง:
- ลูกค้าเริ่มต้นค้นหาสินค้าในเว็บไซต์: Salesforce จะบันทึกข้อมูลการค้นหาและสินค้าที่สนใจ เมื่อลูกค้าเข้าใช้งานโซเชียลมีเดียในภายหลัง Salesforce สามารถแสดงโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่ลูกค้าเคยค้นหา หรือส่งอีเมลแจ้งเตือนโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสินค้านั้น ๆ
- ลูกค้าสอบถามข้อมูลผ่านช่องทางแชท: Salesforce จะบันทึกประวัติการสนทนา เมื่อลูกค้าติดต่อกลับมาในภายหลัง ไม่ว่าจะผ่านช่องทางใด พนักงานก็สามารถเข้าถึงข้อมูลการสนทนาครั้งก่อนได้ทันที เพื่อให้บริการที่รวดเร็วและตรงจุด
ประโยชน์ของการทำงานแบบ Omnichannel:
- สร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น: ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจที่ได้รับการบริการที่ต่อเนื่องและสอดคล้องกันในทุกช่องทาง
- เพิ่มโอกาสในการขาย: การนำเสนอข้อเสนอที่เกี่ยวข้องและตรงใจลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
สร้างความภักดีต่อแบรนด์: การสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในทุกช่องทาง ช่วยสร้างความผูกพันและความภักดีต่อแบรนด์
การใช้ Automation เพื่อการส่งข้อความที่ตรงเวลา
Salesforce Marketing Cloud ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้ลึกซึ้งขึ้น ช่วยให้สามารถสื่อสารกับได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเวลาด้วยเครื่องมือ Automation ที่ทรงพลัง
การส่งข้อความอัตโนมัติตามพฤติกรรมลูกค้า
ด้วย Salesforce Marketing Cloud ธุรกิจสามารถตั้งค่าเงื่อนไขและทริกเกอร์ (Trigger) ต่างๆ เพื่อให้ระบบส่งข้อความ โฆษณา หรือโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติเมื่อลูกค้ามีพฤติกรรมบางอย่าง เช่น
- การละทิ้งตะกร้าสินค้า: เมื่อลูกค้าเพิ่มสินค้าลงในตะกร้าแต่ไม่ดำเนินการสั่งซื้อ ระบบสามารถส่งอีเมลเตือนความจำพร้อมข้อเสนอพิเศษเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
- การเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์: เมื่อลูกค้าเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์บางหน้า เช่น หน้าสินค้าหรือบริการ ระบบสามารถส่งข้อความแนะนำสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง หรือข้อเสนอพิเศษเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
- วันเกิดหรือวันครบรอบ: ระบบสามารถส่งข้อความอวยพรพร้อมส่วนลดหรือของขวัญพิเศษในวันเกิดหรือวันครบรอบของลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจและความภักดีต่อแบรนด์
ประโยชน์ของการใช้ Automation
- เพิ่มประสิทธิภาพ: ช่วยลดงานที่ต้องทำซ้ำๆ และให้ทีมงานมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า
- ส่งข้อความได้ตรงเวลา: ส่งข้อความในเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมและการตอบรับจากลูกค้า
- สร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล: ส่งข้อความที่ตรงกับความสนใจและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ช่วยสร้างความประทับใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
การแบ่งกลุ่มลูกค้าและการปรับแต่งข้อความ
Salesforce ช่วยให้การแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรม ความสนใจ และข้อมูลประชากรของลูกค้าแต่ละราย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในการออกแบบการสื่อสารทางการตลาดที่ มีความเกี่ยวข้องและตรงใจลูกค้าแต่ละกลุ่ม
ตัวอย่างเช่น หากคุณแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจในผลิตภัณฑ์ คุณสามารถส่งอีเมลโปรโมชั่นสินค้าที่ตรงกับความสนใจ หรือหากแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการซื้อ คุณสามารถส่งข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่มียอดซื้อสูง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำ
การปรับแต่งข้อความให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มลูกค้า ช่วยให้คุณสามารถสร้าง ความประทับใจและความรู้สึกพิเศษ ให้กับลูกค้าแต่ละราย ทำให้รู้สึกว่าคุณเข้าใจและใส่ใจในความต้องการ ซึ่งส่งผลต่อ การเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและความภักดีต่อแบรนด์ ในระยะยาว
นอกจากนี้ Salesforce ยังมีเครื่องมือที่ช่วยในการ ปรับแต่งข้อความแบบอัตโนมัติ ทำให้คุณสามารถส่งข้อความที่เป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ